น้ำมันหมู เสี่ยงโรคหัวใจ จริงหรือไม่?

น้ำมันหมู

ล่าสุด เรายังได้เห็นการตีพิมพ์มีวิจัยว่ าคีโตเจนิคไดเอท เสี่ยงโรคหัวใจ ผมก็เลยไปตามอ่านการวิจัยนะว่ามันน่าเชื่อถือแค่ไหน ซึ่งการวิจัยเนี่ยเป็นการแบบเก็บข้อมูลเมื่อ 12 ปีก่อน ไปสอบถามมาแล้ว

มาดูว่าคนตอนนี้ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เขากินอย่างงี้ แล้ววันนี้เขาเป็นยังไง แต่ในช่วง 12 ปีเนี่ย ไม่บอกอะไรเลยนะฮะ แล้วก็มาบอกว่าคีโตเจนิคไดเอทเสี่ยงโรคหัวใจ ซึ่งก็ฟังดูแปลกๆ เนอะ แล้วก็ไม่ได้ผ่านการวิจัยรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะ เอาว่าเป็นส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ถ้าใครอยากเชื่อก็แล้วแต่ แล้วก็มีเรื่องของน้ำมันหมู กับ LDL ที่สูงนู่นนี่เนาะ ถ้าใครตามผมดีก็จะรู้เรื่องนี้ดีมากๆ อยู่แล้วว่า LDL ที่สูงเนี่ย มันไม่ได้น่ากลัวไปหมด เราต้องดูทั้งเอสแอลทั้งไตรกลรเซอรด์ แล้วก็หน้าตาของแอลดีแอลด้วย เพราะว่าการทานยานั้นดีไหม ถ้ามันจำเป็นก็ทามแต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ทาน เพราะอย่างที่ดีที่สุดในโลกคือยาที่ท่านไม่ต้องทาน

น้ำมันหมู เสี่ยงโรคหัวใจ จริงหรือไม่?

ในเรื่องของน้ำมันหมูก็มีการวิจัยอันนึงที่แบบเจ๋งมากเลย เขาเรียกเป็นการรีวิวแบบที่เขาเรียกว่าใช้ศิลปะขั้นสูงเลย เป็นการดูองค์รวมต่างๆ ซึ่งรีวิวอันนี้ดีมาก ซึ่งผมสรุปมาย่อยแล้วกันสำหรับการวิจัยอันนี้หนึ่ง การวิจัยนี้บอกว่าการศึกษาที่ผ่านมาเกี่ยวกับไขมันอิ่มตัวเนี่ยมีข้อจำกัดเยอะ เพราะฉะนั้นการแนะนำว่าให้ทานไขมันอิ่มตัว เนี่ยอาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะว่าไขมันอิ่มตัวที่ดีไขมันธรรมชาติเนี่ยดีต่อสุขภาพ ถ้าเรากินเป็นและกินถูกต้อง

อันที่สอง ควรเปลี่ยนจากฟู้ดเบสเป็นนิวเทรนเบส เวลาเราดูอาหารต่อไปเราควรจะดูอาหารว่าไม่ใช่อาหารประเภทไหนครับ ควรจะดูว่าเขามีสารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายของเราหรือไม่ ถ้าเป็นน้ำมัน ก็ต้องดูว่าเป็นน้ำมันที่มาจากธรรมชาติหรือเปล่า ผ่านกระบวนการหรือเปล่ามีโอเมก้า 3 สูงหรือเปล่า มีโอเมก้า 6 ต่ำหรือเปล่า ซึ่งมาจากธรรมชาติเนี่ยโอเมก้า 3 สูง โอเมก้า 6 ต่ำ ส่วนน้ำมันพืชเนี่ยมีหลายตัวเลยโอเมก้า 6 ศูนย์ ร่างกายอักเสบเยอะ เพราะฉะนั้นระมัดระวังอันต่อมาครับควอลิตี้เบส ควอลิตี้เบสหมายถึงดูคุณภาพเป็นหลัก ไม่ได้ดูปริมาณเป็นหลักแล้ว อาหารต่อไปเราดูที่คุณภาพเนอะ เราไม่ดูปริมาณ และเป็นอาหารธรรมชาติดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต การลดไขมันอิ่มตัวอย่างเดียวหรือการลดพวกน้ำมันหมู น้ำมันจากธรรมชาติเนี่ย ไม่ได้บอกว่าสุขภาพท่านจะดีขึ้น การวิจัยนี้บอกไว้เลยเพราะว่าเราต้องดูองค์รวมหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยับตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนิวทรีชั่น หรือสารอาหารในอาหารว่าเหมาะสมหรือเปล่า แล้วเหมาะกับการใช้ชีวิตของเราหรือเปล่าด้วย

มีหลากหลายมากเลย สรุปเลยว่า แต่ละคนเนี่ยมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นความรู้ที่ถูกต้อง เข้าใจอย่างลึกซึ้ง การศึกษาเพื่อสุขภาพสำคัญมากๆ แล้วสุดท้ายก็สรุปงี้ว่า การวิจัยใหม่ๆเนี่ยควรจะพัฒนาและใช้หลายๆ อย่างมารวมกัน โดยไม่พุ่งเป้าไปที่อาหารชนิดนั้น ชนิดนี้ เพียงอย่างเดียว ควรจะดูไลฟ์สไตล์อาหาร ที่เขาเรียกว่าแตกต่างกัน การนอน การออกกำลังกาย เอามารวมกันเพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์กับคนทั่วไปได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เอาผลเล็กๆ น้อยๆ มาทำให้คนตกใจกลัว เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญคือเค้าเรียกว่าดูแบบองค์รวม ไขมันธรรมชาติ โปรตีนธรรมชาติ แป้งต่ำ น้ำตาลต่ำ โลว์คาร์บไดเอท เฮลตี้คีโตเจนิกไดเอท ทำให้ระบบเผาผลาญของท่านดี

เมื่อไรก็ตามที่ท่านมีความรู้ทุกอย่างมันจะง่าย อะไรก็ตามที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตเราต้องศึกษาให้ดีต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ถ้าเรายังอยู่ที่เดิมแล้วก็ก้าวถอยหลังแบบมากๆเลย นั่นเอง ความรู้คู่สุขภาพ ถ้ามีคนทำได้ท่านทำได้แน่นอนครับ ลองเอาความรู้นี้ไปใช้กันดูส่วนน้ำมันหมูธรรมชาติส่วนตัวผมทานเป็นประจำครับ และชีวิตผมก็ดีมากๆครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ลองดูครับแต่อย่าลืมเดินเยอะๆออกกำลังกายเยอะและมีความสุขกับชีวิตที่มีคุณภาพครับนอนให้ดีด้วยนะครับ